วัดบวรนิเวศวิหาร

     วัดนีเป็นวัดหลวง ชั้นเอก เดิมวัดนี้เป็นวัดที่สร้างใหม่อยู่ติดกับวัดรังษีสุธาวาส ต่อมาได้รวมเข้าด้วยกันในสมัยรัชกาลที่ ๓ และได้การทำนบำรุงในคราวที่ พระบาทสมเด็จพระจอมเก้ลาเจ้าอยู่หัว รัชการที่ ๔ ในคราวที่พระองค์ทรงผนวชและ ทรงเสด็จมาครองวัดนี้ วัดนี้ถือเป็นวัดที่กำเนิด นิกายธรรมยุตเป็นวัดแรกด้วย ถ้ามาวัดแล้วจะพบกับที่แรกเป็น ประตูเสี้ยวกาง จะอยู่หน้าพระอุโบสถ เป็นรูปอารักจะมีด้วยกันสี่บาน เชื่อว่าเป็นอารักดูแลรักษาคนที่มาทำบุญที่วัด

      ภายในพระอุโบสถมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่สององค์ องค์ที่อยู่ด้านหลังคือ พระสุวรรณเขต ได้อันเชิญมาจากจังหวัดเพชรบุรี ลักษณะแบบพระขอม  องค์หน้าคือพระพุทธชินสีห์เป็นแบบสุโขทัยผสมเชียนแสนด้านหลังพระอุโบสถจะมีพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร
 
   ถัดจากพระอุโบสถจะเป็นพระมหาเจดีย์เป็นที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุพระไพรีพินาศ เทวรูปประจำทิศ พระบรมรูปรัชกาลที่๔

ทิศเหนือ พระพรหม พระวิษณุกรรม ทิศใต้ พระนารายณ์ พระศิวะ ทิศตะวันตก พระปัญจสิกขะ พระประคนธรรม
 

     ถัดจากพระเจดีย์เป็นพระวิหารเก๋ง ห้องหน้าภายในประดิษฐาน หลวงพ่อดำส่วนห้องหลังประดิษฐาน พระพุทธรูปฉลองพระองค์ของเจ้าอาวาสวัด ๓ องค์     
๑ พระพุทธวชิรญาณ ประจำองค์ พระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
๒ พระพระพุทธปัญญาอัคคะ ประจำองค์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศ วริยาลงกรณ์
๓ พระพุทธมนุสสนาค ประจำองค์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
 

 
      ถัดไปเป็นวิหารพระศาสดา ภายในแบบเป็นสองห้อง ห้องหน้าประดิษฐาน พระศาสดา ห้องหลังประดิษฐาน พระไสยา

        ด้านหน้าพระศาสดาประดิษฐาน      พระคันธารราฐ และ พระนิรันตราย พระนิรันตรายรัชกาลที่ ๔ ทรงโปรดให้สร้างให้แก่วัดที่เป็น นิกายธรรมยุต ทั่วประเทศ



        ห้องหลังเป็นพระไสยาที่มีความสวยงามมากประดิษฐานอยู่ แต่วิหารพระสาสดาจะเปิดให้เข้าเฉพาะวันสำคัญทางศาสนาเท่านั้น ใต้ฐานบรรจุพระอังคารของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
 
 
     ทางด้านขวามือของพระอุโบสถ จะเป็น รอยพระพุทธบาทโบราณ หรือ พระพุทธยุคลบาท ในศาลายังมีพระพุทธรูปปางลีลาประดิษฐานอยู่ด้วย



          แผนผังภายในวัด

        แผนที่ไปวัดบวรนิเวศวิหาร
    รถเมล์ที่ผานวัดบวรนั้นมีอยู่ หลายสาย เช่น สาย 56 68 516 ปอ68

                                                                         ขอให้อิ่มบุญกันทุกท่าน

                                       อกิญฺจนํ นานุปตนฺติ ทุกฺขา
                                                           “ทุกข์ ย่อมไม่ตกถึงผู้หมดกังวล”

หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ ใกล้กรุงเทพ แห่งวัด คงคา นนทบุรี

      วัดนี้เป็นวัดที่เก่าแก่วัดหนึ่ง สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ.๒๓๗๐ แต่ไม่ทราบผู้สร้างเดิมชื่อ วัดโคก ต่อมาเปลี่ยนเป็น วัดคงคา วัดนี้มีพระอุโบสถเก่าที่ประดิษฐาน พระพุทธรูปศิลาแลงปิดทองคำเปลวพุทธลักษณะแบบสุโขทัย หรือ ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อศิลาแดง ภายในวัดยังมี สิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆอีกมากมาย เช่น หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ (จะเปิดเป็นทางการพร้อมกับพระอุโบสถหลังใหม่ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๓) พระสังกัจจายน์ พระสีวลี เจ้าแม่กวนอิม เสด็จพ่อ ร.๕ เจ้าแม่คระเคียน ท้าวเวสสุวัณ และยังมีที่ให้อาหารปลาด้วย

 



 แผนที่และสายรถเมล์ไปวัดคงคา

   ถ้าไปจากกรุงเทพ ผมแนะนำให้นั่งรถเมล์เลยวัดไปป้ายหนึ่งเพราะป้ายตรงวัดไม่มีสะพานข้ามถนนให้ ถ้าเลยไปจะมีสะพานให้ เวลานั่งไปให้มองทางขวามือพอเห็นวัดแล้วให้ลงป้ายต่อไปแล้วเดินข้ามสะพานไปฝั่งตรงข้ามแล้วนั่งรถย้อนกลับไปลงหน้าวัด สามารถนั่งรถสองแถวหรือรถกระป่องก็ได้

                                                                           ขอใหอิ่มบุญกันทุกท่าน

                                                                                เย ปมตฺตา ยถา มตา
                                                 “คนประมาท เปรียบเหมือนคนตายแล้ว”

วัดบางพลีใหญ่ใน

       เดิมนั้นชื่อ วัดพลับพลาชัยชนะสงสงคราม มาจากในสมัย พระนเรศวรมหาราช ได้ทรงกระทำการพลีกรรมบวงสรวง ณ บริเวณนี้ และเมื่อทรงชนะสงครามกลับมาทรงสร้างพลับพลานี้ และทรงเรียกวัดนี้ว่า วัดพลับพลาชัยชนะสงสงคราม ชื่อตำบล นั้นเรียกตามการทำการพลีนั้น ต่อมามีพระพุทธรูปลอยน้ำมา ว่ากันว่าเป็น พระที่ลอยน้ำมาตามตำนานของพระสามพี่น้อง คือ หลวงพ่อ โสธร หลวงพ่อวัดบ้านแหลม และหลวงพ่อโตวัดบางพลี

        หลวงพ่อโต วัดบางพลีเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย เนื้อทองสัมฤทธิ์ ลืมพระเนตร หน้าตักก้วาง ๓ ศอก ๑ นิ้ว เป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย ประดิษฐานในพระอุโบสถ วัดบางพลีใหญ่ใน ภายในยังมีหลวงพ่อโสธรและหลวงพ่อบ้านแหลมจำลองประดิษฐานอยู่ด้วย
   
          รอบพระอุโบสถ มีพระพุทธรูปมากมายหลายปางและมี พระราหู หมอชีวกโกมารภัจจ์ รอยพระพุทธบาท พระปางลีลา ต้นโพธิ วิหารเล็กที่อยู่ข้างพระอุโบสถ หน้าพระวิหารเล็กนั้นมีพระสังกัจจายน์ ที่แกะสลักมาจากต้น พิกุล และพระสีวลี ภายในวิหารเล็กนั้นมีพระพุทธรูปทั้งที่เก่าและใหม่ ประดิษฐานอยู่


          วัดนี้ยังมีสุขาไฮเทคที่มีความสวยงาม เป็นทีที่มีคนไปถ่ายรูปกันมากจะอยู่ทางด้านซ้ายมือของพระอุโบสถ เขาจะปิดประมาณ๔โมงเย็น
 
        มีถานที่เหมาะสำหรับเดินช้อปปิ้งอยู่ใกล้ๆกับวัดเป็น ตลาดเก่าบางพลีอายุ ๑๔๐ปี ยังเป็นตลาดที่ ยังรักษาวิถีแบบชาวบ้านได้อย่างดีมาก ถ้าเป็นวันหยุด จะมีร้านค้ามากมาย พากันมาขายของกันตลอดสองข้างทาง

         มีวัดที่อยากแนะนำไปอีกวัดหนึ่งคือวัด บางพลีใหญ่กลาง เป็นวัดที่มีพื้นที่ที่กว้างขวางวัดนี้มีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่ใหญ ภายในองค์พระ เรายังสามารถเข้าไปในองค์พระได้ เพื่อนมัสการหัวใจของพระนอนได้โดยภายใน ได้แบ่งออกเป็น ๔ ชั้น ชั้น๑ และ ๒ เป็นสถานที่วิปัสนา หัวใจพระนอนจะอยู่ที่ชั้น ๔ การเดินทางไปวัดนี้ ถ้าเรานมัสการหลวงพ่อโตแล้ว ให้เดินไปด้านหลังวัดที่ไม่ติดกับคลอง จะเห็นวินมอเตอร์ไซด์บอกเขาไปวัดบางพลีใหญ่กลางได้เลยเมื่อมาถึงจะพบ รูปปั้นพระพุทธเจ้านำสาวกบิณฑบาตรและสระเต่าที่ใหญ่มาก

 
       สระเต่ามีศาลากลางสระ ประดิษฐาน รูปหล่ออดีตเจ้าอาวาสอยู่ ๓ รูป และเรายังสามารถที่จะลอดพระอุโบสถเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ยังมี วิมารพระอินทร์ พระแก้วมรกต พระมหาเจดีย์
        แผนที่ไปวัดบางพลีใหญ่ใน (วัดหลวงพ่อโต)
การเดินทางมาวัดบางพลีนั้นสามารถมาได้ โดยนั่งรถเมล์มาลงที่ อิมพิเรียลสำโรง(สาย ๒ ๒๓ ๒๕ ๔๕ ๑๑๖ ๓๖๕ ปอ ๑๐๒ ๑๔๒ ๕๐๗ ๕๐๘ ๕๔๔ ๕๔๕) แล้วต่อสาย ๑๑๔๕(หน้ารถเขียนว่า สำโรง-บางพลี คันสีส้ม ค่ารถ ในวันที่ไปมาคนละ ๑๑ บาท) หรือ รถสองแถวที่เขียนว่า สำโรง-บางพลี ไปลงที่ BIG C บางพลีเมื่อมาถึงแล้วให้เดินเข้าไปออกข้างหลังลานจอดรถเดินจนถึงคลองสำโรง จะเห็นสะพานเรือและป้าย ยินดีต้อนรับตลาดโบราณบางพลี ให้ข้ามไป ค่าข้ามฝาก คนละ ๑ บาท ข้ามไปแล้วเดินไปตามทางเรื่อยๆก็จะถึงวัด



                                                                            ขอให้อิ่มบุญกันถ้วนหน้า

                                                                                 อสาธํ สาธุนา ชิเน
                                                               “ พึงชนะคนไม่ดี ด้วยความดี”