ทักทาย

สวัสดีทุกท่านผมมีความตั้งใจอยู่ว่าอยากจะทำบล็อกนี้ขึ้นมา เพราะส่วนตัวแล้วชอบไปวัดแต่ก็เจอปัญหาว่าจะไปยังไง รถเราก็ไม่มี ไปรถเมล์ก็ไม่ถูก ยิ่งต่างจังหวัดไม่ต้องพูดถึงเลย ก็เลยคิดว่าจะทำบล็อกขึ้นมาเอาแบบที่ว่าเราไปมาแล้วมาเล่าสู่กันฟังละกัน บางวัดอาจมีแผนที่ สายรถเมล์ ขบวนรถไฟบ้าง เพื่อว่าใครชอบเดินทางไปแบบสะพายเป้แล้วลุยคงจะชอบ ก็ขอแนะนำแค่นี้ก่อนนะครับ

วัดป่ากลางกรุง “วัดป่าเชิงเลน”

    วันนี้ผมได้มีโอกาศเดินทางไปยังวัดแห่งหนึ่ง ที่ยังคงมีบรรยากาศรอบๆวัดที่ยังคงเป็นธรรมชาติ ร่มรื่น เย็นสบาย ทำให้รู้สึกว่าสบายทั้งกายและใจอย่างแท้จริง วัดนี้ชื่อว่า “วัดป่าเชิงเลน” แต่ก่อนวัดนี้เป็นวัดร้างมานาน จากประวัติของวัด มีการค้นพบว่า ลักษณะในการก่อสร้างน่าจะเป็นในสมัยอยุธยา ก็น่าจะมีอายุประมาณ 200 ปี ซากปรักหักพังของวัดอยู่ริมคลองชักพระ อันนี้น่าจะเป็นที่มาของชื่อวัด

  วัดนี้ถูกพบโดยบังเอิญ ในเดือน มีนาคม2532 คตรั้งแรกที่พบ บริเวณวัดเป็นป่าหญ้ารกและมีต้นอ้อขึ้นอยู่หนาแน่น แต่บริเวณที่พบมีลักษระต้นอ้อสูงกว่าที่อื่น เมื่อทำการสำรวจจึงพบวัดดังกล่าว
 
     ภายในวัดดูสงบ ร่มรื่นมาก เหมาะแก่การนั่งสมาธิ หรือจะมานั่งเพื่อสงบจิตร สงบใจก็ได้ โบสถ์ของวัดสร้างบนโบสถ์เดิมแต่ยังคงเห็นอิฐเก่าแก่ที่เคยเป็นผนังโบสถ


   วัดนี้ถือเป็นวัดที่ใครอยากจะหาความสงบ ในเมืองที่วุ่นวายก็ขอให้ลองเดินทางมาวัดนี้แล้วคุณจะติดใจใน  ธรรม และ ธรรมชาติ ที่สวยงามและสงบ



แผนที่และการเดินทาง

                                                                           
  บริเวณที่สองแถวจอด
ภาพทางเดินไปลานจอดรถ



                                         วิริเยน ทุกฺขมจฺเจติ   
                          "คนล่วงทุกได้ เพราะความเพรียร"
                                                                   ขอให้อิ่มบุญกันทุกท่าน
                                   

วัดชำนิหัตถการ

    วัดนี้ไม่มีหลักฐานว่าสร้างเมื่อใด แต่สันนิษฐานจากลักษณะของศิลปะ  น่าจะสร้างขึ้นต้น          กรุงศรีอยุธยา ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระศรีสรรเพชญ์ทศพลญาณ  เป็นพระประธาน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย รอบพระอุโบสถภายนอกยังประดิษฐานพระพุทธรูปอื่นๆอีกมาก เช่น พระพุทธรูปประจำวันเกิด พระสีวลีปางนั่งรับภัตตาหาร

  นอกจากนี้ยังมี วิหารพระนอน จะอยู่ทางด้านหลังของพระอุโบสถ เป็นพระปางไสยาสน์  ก่ออิฐถือปูนปิดทองทั้งองค์ องค์พระยาวประมาณ 6 เมตร ประทับสีหไสยาสน์ เส้นขอบพระเนตรเขียนสีดำเข็ม พระพักตร์ยิ้มเล็กน้อย หนุนพระเขนยมีลักษณะเป็นทรงกระบอกวางซ้อนกัน ประดับกระจงอย่างสวยงาม

 

     ภายนอกพระอุโบสถ ยังมีศาลาบรรจงพรรณไรสามัคคีและศาลามณฑา เป็นที่ประดิษฐาน พระสีวลี พระศรีอารยเมตรไตร พระมหากัจจายนะ และยังมี พระราหู เทวรูป พระพุทธรูปจีน

 

 

 

แผนที่วัดชำนิหัตถการและสายรถเมล์ที่ผ่าน

แผนผังภายในวัด

การเดินทาง

สามารถนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ แล้วนั่งรถเมล์ตรงป้ายหน้าสนามกีฬาที่ผ่าน ยศเส หัวลำโพง เช่น สาย 15, 47 เป็นต้น มาลงที่ป้ายรถเมล์อาคารศรีจุลทรัพย์ (สำนักงาน กกต.) ตรงข้ามวัดชำนิหัตถการ (วัดสามง่าม) เป็นป้ายที่ 4 นับจากสนามกีฬาแห่งชาติ แล้วเดินข้ามสะพานลอย เลี้ยวซ้าย ถึงหน้าวัดชำนิหัตถการ

หากเดินทางมาจากตลาดโบ้เบ้-มหานาค ก็นั่งรถเมล์สาย 53 มาลงตลาดโบ้เบ้สะพาน 3 แล้วเดินเข้าวัดทางซอยสะพาน 3

หากเดินทางโดยเรือคลองแสนแสบ ก็ขึ้นที่ท่าเรือตลาดโบ้เบ้ แล้วเดินเข้าทางซอยสะพาน 3 

 

                             ขอให้อิ่มบุญกันทุกท่าน

                                  

                                        ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต

                                   “ปัญญา เป็นแสงสว่างในโลก”

วัดสุวรรณาราม ราชวรวิหาร

วัดนี้เป็นพระอารามหลวงชั้นโท เป็นวัดโบราณเดิมชื่อ “วัดทอง” ไม่ทราบผู้สร้างที่แน่นอน วัดนี้ได้รับการบูรณะโดย พระบาทสมเด็จ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และได้พระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดสุวรรณาราม” ภายในพระอุโบสถมีภาพวาดมีสวยงามมาก เป็นการประชันกันระหว่าง ครูทองอยู่ กับ ครูคงแป๊ะ ช่างมือเอกในสมัยนั้น และยังเป็นที่ประดิษฐาน “พระศาสดา” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบศิลปะสุโขทัย โลหะลงรักปิดทอง หน้าตักกว้าง ๖ ศอก ๑ คืบ สูง ๘ศอก ๘ นิ้ว สันนิษฐานว่าน่าจะอัญเชิญมาจากสุโขทัย ในรัชกาลที่ ๑

 

     พระวิหารมีมุขขวางหน้าหลัง ๒ ข้างช่อฟ้าใบระกาประดับกระจกปิดทอง   พระเจดีย์เป็นแบบปูนปั้นสีขาว

     แผนที่และสายรถเมล์

 

 

 

                                                                                           ขอให้อิ่มบุญกันทุกท่าน

                                     มหตฺตปตฺโตปิ นิวาตวุตฺติ

                “ถึงจะเป็นใหญ่เป็นโตขึ้นมา ก็ควรมีความถ่อมตน”